Bettering Resources

For A Greater Good

สารจากประธานกรรมการบริหาร

“ผมภูมิใจ และยินดีอย่างยิ่งที่จะได้แนะนำกลุ่มบริษัทในเครือ เอสทีซี ที่ผมได้ทำหน้าที่บริหารให้กับผู้ถือหุ้น ลูกค้า และผู้ร่วมงานทุกคน 40 ปีแล้วที่เครือบริษัทของเราได้เจริญก้าวหน้า เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญให้แก่เศรษฐกิจของประเทศไทย ฐานธุรกิจเพื่อการพัฒนาแห่งชาติที่น่าประทับใจในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็คือผลิตผลทางด้านการเกษตร ความอุดมสมบูรณ์ของที่ดินผืนนาเพื่อการเพาะปลูก และนี่เองที่ทำให้เครือเอสทีซีเป็นกลุ่มบริษัทที่โดดเด่นในธุรกิจการเกษตร…”

สารจากประธานกรรมการบริหาร

“ผมภูมิใจ และยินดีอย่างยิ่งที่จะได้แนะนำกลุ่มบริษัทในเครือ เอสทีซี ที่ผมได้ทำหน้าที่บริหารให้กับผู้ถือหุ้น ลูกค้า และผู้ร่วมงานทุกคน 40 ปีแล้วที่เครือบริษัทของเราได้เจริญก้าวหน้า เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญให้แก่เศรษฐกิจของประเทศไทย ฐานธุรกิจเพื่อการพัฒนาแห่งชาติที่น่าประทับใจในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็คือผลิตผลทางด้านการเกษตร ความอุดมสมบูรณ์ของที่ดินผืนนาเพื่อการเพาะปลูก และนี่เองที่ทำให้เครือเอสทีซีเป็นกลุ่มบริษัทที่โดดเด่นในธุรกิจการเกษตร…”

วิสัยทัศน์

เอสทีซี มุ่งหวังที่จะเป็นผู้นำอุตสาหกรรมการเกษตร และกิจการต่อเนื่อง พร้อมทั้งขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

ภารกิจ

เรายึดมั่นในหลักการที่จะปฏิบัติตนกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วยความเป็นธรรม จัดหาสินค้าที่มีคุณภาพดีที่สุด และให้บริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้า และด้วยปรัชญาแห่งการดำเนินธุรกิจของเรา เรามุ่งมั่นยึดถือปฏิบัติตามจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด มีความรับผิดชอบต่อลูกค้า มองเห็นคุณค่าของบุคลากรว่าเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าที่สุดของเรา และมีพันธะหน้าที่เพื่อการเอื้ออาทรต่อสังคม

ประวัติความเป็นมา

เอสทีซี เป็นกลุ่มบริษัทที่มีฐานการเจริญเติบโตจากธุรกิจการส่งออกสินค้าพืชไร่ทางการเกษตร เช่น มันสำปะหลัง ข้าว และก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ส่งออกข้าวชั้นน้ำของประเทศ ก่อนที่จะเป็นเครือ เอสทีซี กลุ่มผู้บริหารรุ่นบุกเบิกได้ทำธุรกิจโรงสีข้าว ในระดับท้องถิ่นมาก่อน ได้พัฒนา และก้าวหน้ามาโดยลำดับ จนเป็นเครือ เอสทีซี เป็นที่เชื่อถือ และมั่นคงในปัจจุบัน

เอสทีซี ได้มีการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจต่างๆ อีกหลายด้าน โดยอาศัยปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจของบริษัทในเครืออย่างครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจการเกษตรอุตสาหกรรมที่นอกจากจะสร้างความมั่นคงให้กับเครือ เอสทีซี แล้ว ยังช่วยพัฒนาภาคเกษตรกรรม อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ดังใบไม้ 3 ใบที่เจริญเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ในวันข้างหน้าต่อไป

ที่มาของชื่อ "เอสทีซี" STC

ST มาจาก บริษัท แสงไทยบางปะกง จำกัด (SANG THAI BANGPAKONG CO., LTD.) อันเป็นบริษัทเริ่มแรกที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อดำเนินธุรกิจส่งออกมันสำปะหลังอัดเม็ด
C มาจาก บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด (CAPITAL RICE CO., LTD.) เป็นบริษัทส่งออกข้าวแห่งแรก และเป็นบริษัทที่ 2 ที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อดำเนินธุรกิจส่งออกข้าว

ความหมายของ LOGO

ใช้สัญลักษณ์ใบไม้ 3 ใบสีเขียว เพื่อเป็นสื่อที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงการดำเนินธุรกิจด้านเกษตรกรรม โดยสัญลักษณ์มีความหมายดังต่อไปนี้
ใบไม้ หมายถึง งานด้านเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพของประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ
จำนวน 3 ใบ หมายถึง พืชผลแรกเริ่ม 3 ชนิดที่เป็นธุรกิจพื้นฐานของเอสทีซี อันได้แก่ มันสำปะหลัง ข้าว และข้าวโพด จนกระทั่งขยายสาขาธุรกิจครอบคลุมสู่แขนงต่างๆ
สีเขียว หมายถึง ความเจริญงอกงามที่เอสทีซี มุ่งสร้างให้กับสังคมและประเทศ ด้วยการนำทรัพยากร ทั้งด้านบุคลากร เงินทุน และเทคโนโลยีอันทันสมัย มาสร้างรายได้และพลังทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ

ผู้บริหาร

คณะกรรมการบริษัท

1.นายไพศาลวนิชจักร์วงศ์ประธานกรรมการบริหาร
2.นายวรพงศ์พิชญ์พงศารองประธานกรรมการบริหาร
3.นายสุรศักดิ์พิเชฐพงศารองประธานกรรมการบริหาร
4.นายวิเชียรวนิชจักร์วงศ์รองประธานกรรมการบริหาร
5.นายภวินศักดิ์ภูสิฏฐ์วุฒิกุลกรรมการบริหาร

คณะกรรมการบริหาร

1. นายธารเกษม วนิชจักร์วงศ์
2. นายเอนก พิเชฐพงศา
3. นายศราวุฒิ วนิชจักร์วงศ์
4. นายวัลลภ พิชญ์พงศา
5. นายภุชชงค์ วนิชจักร์วงศ์
6. นายพงศ์พัฒน์ วนิชจักร์วงศ์
7. นายอนันต์ พิเชฐพงศา
8. นายวิญญู พิชญ์พงศา
9. นายรวิสักก์ วนิชจักร์วงศ์
10. นางสาวสินี วนิชจักร์วงศ์

สารจากประธานกรรมการบริหาร

“ผมภูมิใจ และยินดีอย่างยิ่งที่จะได้แนะนํากลุ่มบริษัทในเครือ เอสทีซี ที่ผมได้ทําหน้าที่บริหาร ให้กับผู้ถือหุ้น ลูกค้า และผู้ร่วมงานทุกคน

40 ปีแล้วที่เครือบริษัทของเราได้เจริญก้าวหน้า เป็นพลังขับเคลื่อนที่สําคัญให้แก่เศรษฐกิจ ของประเทศไทย ฐานธุรกิจเพื่อการพัฒนาแห่งชาติที่น่าประทับใจในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็คือผลิตผล ทางด้านการเกษตร ความอุดมสมบูรณ์ของที่ดินผืนนาเพื่อการเพาะปลูก และการทํางานหนักของ บรรพบุรุษของเรารุ่นแล้วรุ่นเล่า นี่แหละที่ทําให้เราเป็นชาติที่แข็งแกร่ง และนี่เองที่ทําให้เครียเอสทีซี เป็นกลุ่มบริษัทที่โดดเด่นในธุรกิจการเกษตร

เมื่อจํานวนประชากรของโลกเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ปริมาณความต้องการอาหารที่มีคุณภาพ เช่น ข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักก็ทวีจํานวนเพิ่มขึ้นด้วย เอสทีซี จึงได้มีบทบาทที่สําคัญในการสนองตอบ ความต้องการนี้ และจะยังคงทําหน้าที่นี้ต่อไป มีเฉพาะแต่เพื่อเป็นหลักประกันอนาคตทางด้าน เศรษฐกิจพื้นฐานของเครือบริษัทเท่านั้น แต่เพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราด้วย เรื่องราวประวัติของเอสทีซีเป็นหนึ่งที่กอปรด้วยพลัง และการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องตลอดมา เมื่อปี พ.ศ. 2517 คณะผู้ก่อตั้ง ผู้มีประสบการณ์ด้านธุรกิจโรงสีข้าว รวมพลังกันก่อตั้ง บริษัท แสงไทยบางปะกง จํากัด ขึ้น เพื่อดําเนินกิจการด้านคลังเก็บสินค้า และธุรกิจค้ามันสําปะหลัง เมื่อธุรกิจเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงได้ขยายกิจการ เป็นแหล่งรับซื้อ และค้าข้าวเพื่อการส่งออก ที่สําคัญรายหนึ่ง

ในบรรดาธุรกิจหลากหลายระดับสากล หนึ่งในก้าวแรก คือการร่วมทุนกับธุรกิจต่างประเทศ โดย ร่วมกันก่อตั้งโรงงานผลิตแป้งสาลีกับบริษัทญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นหุ้นส่วนกับบริษัททั้ง ไทย และต่างประเทศที่โด่งดังในโครงการท่าเทียบเรือนานาชาติที่แหลมฉบัง

ที่เอสทีซี เรามีวิสัยทัศน์ อันเป็นพลังขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ นั่นก็คือ “ผู้ขับเคลื่อนศักยภาพเพื่อ สังคมที่ดี” ผู้ร่วมก่อตั้งเตรีย เอสทีซี ทุกท่านต่างก็มีบุคลิก และคติธรรมประจําใจที่ทรงคุณค่า สําาคัญ เพื่อสมานฉันท์ ความสามัคคี เพื่อความกระตือรือร้น และมุ่งมั่นที่จะทํางานตามหน้าที่ อย่างจริงใจ เพื่อความสัมฤทธิ์ผลจากทัศนคติมองการณ์ไกล และโดยมีเจตนาดี จริงใจ และ ดหลักคุณธรรม

เมื่อย่างเข้าสู่ปีที่ 40 เอสทีซี ได้ดําเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับนวัตกรรมใหม่ๆ และเพื่อความเจริญ เติบโตที่ยั่งยืน และจะยังคงทําดีเช่นนี้ยิ่งขึ้นต่อไปในอีกนานปีข้างหน้า

ในฐานะประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ ผมขอให้คํามั่นกับลูกค้าและหุ้นส่วนทั้งหลาย ขอให้ความมั่นใจกับผู้ถือหุ้นทั้งปวง ขอขอบคุณผู้บริหาร คณะผู้ร่วมงาน และพนักงานทุกระดับชั้น ในทุกกลุ่มบริษัท ด้วยความจริงใจ ที่บรรดาท่านเหล่านี้ได้ช่วยกันทําให้เครือ เอสทีซี ดํารงคงอยู่ เช่นทุกวันนี้ และทุกท่านล้วนแต่เป็นหลักประกันอนาคตของกลุ่มบริษัทในเครือของเรา”

 

ไพศาล วนิชจักรีวงศ์

ประธานกรรมการบริหาร